ไลอ้อน ประเทศไทย ดัน Systema ผู้นำนวัตกรรมแปรงสีฟัน จุดกระแสสุขภาพช่องปากยุคใหม่ “เปลี่ยนแปรงให้เร็วขึ้น” ไม่ต้องรอ 3 เดือน
Systema ตอกย้ำบทบาทผู้นำนวัตกรรมแปรงสีฟัน ด้วยแคมเปญ “เปลี่ยนแปรงให้เร็วขึ้น” ไม่ต้องรอครบ 3 เดือน ชูความเสี่ยงของแปรงเก่าต่อสุขภาพช่องปาก พร้อมผลักดันพฤติกรรมใหม่ให้กลายเป็นวินัยเสริมด้วย นวัตกรรมขนแปรง PBT จากญี่ปุ่น ที่นุ่มพิเศษ ซอกซอนลึกถึงร่องเหงือก พร้อมเคลือบแอนตี้แบคทีเรีย ลดการสะสมเชื้อโรค
อลงกรณ์ จารุจารีต ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care Department Manager) บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้คำแนะนำทั่วไประบุให้เปลี่ยนแปรงทุก 3 เดือน แต่จากการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 90% ยังใช้แปรงเกินระยะเวลานี้ โดยอิงจากความรู้สึกหรือการสังเกตว่าขนแปรงเริ่มบาน รวมทั้งพฤติกรรมของคนไทยนิยมเก็บแปรงสีฟันไว้ในห้องน้ำที่มีความชื้นสูง
รวมทั้งอาจสัมผัสละอองน้ำและความสกปรกที่มาจากการทำกิจกรรมในห้องน้ำต่างๆ กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย Systema จึงเปิดตัวแคมเปญ “เปลี่ยนแปรงให้เร็วขึ้น” เพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมใหม่ พร้อมสื่อสารความเสี่ยงของแปรงเก่าผ่านข้อมูลจริงว่า แปรงที่ใช้นานเกินไปอาจสะสมเชื้อโรคได้มากถึง 10 ล้านตัว อาจเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพช่องปากโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น systema จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยเปลี่ยนแปรงสีฟันให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอถึง 3 เดือน
โดย systema ได้ใช้ฤกษ์ดี วันที่ 5 เดือน 5 ที่ผ่านมาเปิดตัว campaign ดังกล่าว เนื่องจากวันที่ 5 เดือน 5 เขียนติดกันเป็นตัวเลข 55 ที่พ้องกับการส่งข้อความแสดงการหัวเราะของคนไทยที่สามารถเปิดเผยสุขภาพช่องปากที่ดี ยิ้มและหัวเราะได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังตั้งชื่อแคมเปญว่า วันเปลี่ยนแปรง ซึ่งพ้องเสียงกับ การเปลี่ยนแปลง ที่ systema ต้องการเชิญชวนให้คนไทย “เปลี่ยนแปลง” พฤติกรรมด้วยการ “เปลี่ยนแปรง” โดยไม่ต้องรอถึง 3 เดือน
ทั้งนี้ systema ได้สื่อสารแคมเปญดังกล่าวผ่านสื่อทั้ง Offline Online รวมทั้งสื่อ out of home ทั่วประเทศ จนเกิดกระแสและความสำเร็จเป็นอย่างมากจนทำให้ยอดขายของแปรงสีฟัน systema กลับมามียอดขายและ market share สูงที่สุดในรอบ 2 ปี
นอกจากแคมเปญ “วันเปลี่ยนแปรง” แล้ว Systema ยังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์สุขภาพช่องปากของผู้บริโภคยุคใหม่ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า ทั้งยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และไหมขัดฟัน ตอบโจทย์ความมั่นใจของคนรุ่นใหม่ ถ่ายทอด DNA ความทันสมัยผ่านบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสุขภาพ
อีกหนึ่งจุดแข็งคือ ขนแปรงนวัตกรรมจากญี่ปุ่นที่ซอกซอนลึกพร้อมคุณสมบัติลดการสะสมของแบคทีเรีย ช่วยยกระดับสุขอนามัยช่องปากตอบรับความต้องการด้านความสะอาดหลังยุคโควิด Systema จึงถูกวางเป็นแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพช่องปากแบบครบวงจรที่เข้าใจ Insight ของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง
อลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไลอ้อน ประเทศไทย มีกลยุทธ์การตลาดซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์ Systema โดยยึดหลัก Brand Purpose ที่ต้องการสร้างนวัตกรรมการดูแลช่องปากที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่เข้าใจ Insight ของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งเพื่อขับเคลื่อนแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในเชิงพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากและสุขภาวะของสังคม