ศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอซีพี และคณะผู้บริหาร ลงใต้ บูรณาการความช่วยเหลือ ฟื้นฟูโรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนในพื้นที่น้ำท่วมหนัก
เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เดินหน้าภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แบบบูรณาการภายใต้ “One CP” ระดมศักยภาพจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง โดย ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือซีพี พร้อมด้วยภริยา บุษดี เจียรวนนท์, กมลนันท์ เจียรวนนท์ โสภณพนิช ผู้อำนวยการด้านพัฒนาโครงการยุทธศาสตร์ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์อีดี และทรูปลูกปัญญา
รวมถึงคณะผู้บริหาร อาทิ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ, จอมกิตติ ศิริกุล, มนัสส์ มานะวุฒิเวช, ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน และทีม ซีพีอาสา จากทุกกลุ่มบริษัทในเครือ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ส่งมอบการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบ และหารือแนวทางฟื้นฟูร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูระบบสาธารณสุข และการศึกษา พร้อมวางแผนรับมือน้ำท่วมในอนาคต

ศุภชัย เจียรวนนท์ กล่าวว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์พร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าและการฟื้นฟูหลังน้ำลด เพราะสำหรับเรา การช่วยเหลือของซีพีไม่ได้หยุดอยู่ที่การส่งมอบสิ่งของ แต่คือความมุ่งมั่นที่ต้องการให้พื้นที่ประสบอุทกภัยกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โรงเรียนกลับมาเปิดสอน ชุมชนมีกำลังใจ และมีทรัพยากรที่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ และโรงพยาบาลสามารถดูแลผู้ป่วยได้เต็มศักยภาพ นี่คือค่านิยมของซีพีที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้ประเทศและประชาชนก่อนเสมอ พร้อมยืนเคียงข้างชุมชนในเวลายากลำบาก และร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการช่วยเหลือฟื้นฟู”
“ขอเป็นกำลังใจให้โรงเรียนทุกแห่งที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพี่น้องชาวหาดใหญ่และภาคใต้ที่เผชิญความสูญเสีย เราเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน จะช่วยให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้น้อง ๆ กลับมาเรียนได้โดยเร็วที่สุด และให้ชุมชนกลับมายืนได้อีกครั้ง วิกฤตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ากำลังใจและการเกื้อกูลกันเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเรายืนอยู่เคียงข้างกัน ผมเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่คนไทยก้าวข้ามไม่ได้” ศุภชัย กล่าวเสริม
คณะผู้บริหารเริ่มภารกิจแรก ที่โรงเรียนวัดปรางแก้ว อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ซึ่งมีนักเรียนทั้งหมด 127 คน และเป็นหนึ่งในโรงเรียนภายใต้โครงการ CONNEXT ED ที่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วมค่อนข้างหนัก อาคารเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด คณะผู้บริหารได้ส่งมอบถุงกำลังใจ 250 ชุด ให้แก่คณะครูและนักเรียน พร้อมมอบคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา และชุดนักเรียนให้แก่นักเรียน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และช่วยให้โรงเรียนสามารถกลับมาจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ

พรพักตร์ พยูงเกียรติคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปรางแก้ว กล่าวว่า “ในนามของครูและนักเรียนโรงเรียนวัดปรางแก้ว เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เพราะกำลังใจและสิ่งของที่มอบให้ช่วยเสริมการดูแลนักเรียนและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนภายใต้ภาวะวิกฤตได้อย่างมาก อุปกรณ์ดิจิทัลของโรงเรียนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดจากระดับน้ำที่สูงถึง 2–2.5 เมตร ทั้งคอมพิวเตอร์ ทีวีในห้องเรียน และห้องถ่ายทอดสด
ขณะเดียวกันเด็ก ๆ หลายครอบครัวก็เผชิญน้ำท่วมถึงเกือบมิดหลังคา ทำให้ขาดชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ดังนั้น การที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้ามาสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และถุงยังชีพสำหรับนักเรียน ครู และผู้ปกครอง จึงเป็นการช่วยคลี่คลายปัญหาเร่งด่วนของโรงเรียนและชุมชนได้อย่างแท้จริงค่ะ”
จากนั้น ศุภชัยและคณะ ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์ที่รองรับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงวิกฤต ทำให้มีวัตถุดิบและอาหารไม่เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ที่ผ่านมาซีพีได้ส่งมอบถุงกำลังใจ พร้อมวัตถุดิบอาหารสดและอาหารแห้ง เพื่อสนับสนุนครัวกลางมาโดยตลอด โดยมีนายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ ให้การต้อนรับ

นายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า “โรงพยาบาลต้องรับภาระสูงขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำลด และรับผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน การสนับสนุนครั้งนี้จึงช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาล และขอขอบคุณซีพีที่มีความห่วงใยต่อผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
รวมถึงเป็นองค์กรเอกชนที่มีบทบาทในการร่วมเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบสาธารณสุขในยามวิกฤตมาโดยตลอด“ ซึ่งหลังจากการหารือร่วมกันและเห็นสถานการณ์ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว ซีพี จะให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเติม เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมารักษาผู้ป่วยได้เต็มกำลังความสามารถโดยเร็วที่สุด
นอกจากการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยแล้ว อีกมิติหนึ่งของการช่วยเหลือที่สำคัญอย่างยิ่ง คือการดูแลพนักงานจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานได้รับผลกระทบกว่า 397 คน โดยคณะผู้บริหารได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และพูดคุยกับตัวแทนพนักงาน 27 ราย เพื่อรับฟังสถานการณ์ความเดือดร้อน และมอบถุงกำลังใจเพื่อบรรเทาผลกระทบและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน

ชญานี บุญสน ทีมปฏิบัติการความยั่งยืนทางทะเล หนึ่งในตัวแทนพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เผยว่า “ดีใจมากที่ผู้บริหารเห็นความสำคัญและมาส่งกำลังใจให้ถึงในพื้นที่ ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้ถูกทอดทิ้ง และรับรู้ได้ว่าผู้บริหารห่วงใยพวกเราเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ” ซึ่งนายศุภชัย ได้ย้ำกับพนักงานว่าจะนำสิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนและได้รับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้กลับไปกำหนดเป็นมาตรการดูแลเยียวยาพนักงานเมื่อเกิดวิกฤติในพื้นที่ต่างๆต่อไป พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน
ภารกิจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูภาคใต้ทั้งหมดได้รับแรงสนับสนุนจาก ซีพีอาสา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในพื้นที่ตั้งแต่น้ำท่วมระลอกแรก โดยทำหน้าที่ส่งมอบวัตถุดิบในการปรุงอาหาร จัดเตรียมถุงยังชีพ และกระจายสิ่งของ ไปจนถึงการสนับสนุนโรงครัวและทำงานประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น จึงทำให้ความช่วยเหลือเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ แม้ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังคงอยู่ ทั้งด้านคุณภาพชีวิต สาธารณสุข และการศึกษา ชาวบ้านจำนวนมากยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน การฟื้นฟูในพื้นที่ภาคใต้ได้รับแรงสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น หน่วยกู้ภัย จิตอาสาจากทั่วประเทศ และภาคเอกชน
โดยเครือซีพี บริษัทในเครือ และซีพีอาสา ได้ระดมกำลังลงพื้นที่สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการช่วยเหลือฉุกเฉิน สนับสนุนด้านอาหาร น้ำดื่ม การสื่อสาร โดรนลำเลียง รถและเรือ พร้อมทำงานร่วมกับเครือข่ายอาสา เพื่อให้ชาวใต้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง
การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนบทบาทของซีพีในฐานะภาคเอกชนที่ยืนหยัดเคียงข้างชุมชน เพื่อให้โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มศักยภาพ ภายใต้ค่านิยม “3 ประโยชน์” — เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน และเพื่อองค์กร ตามที่ซีพียึดมั่นเสมอมา
