ชวนส่องบทบาท “สตรีสุดสตรอง” ในแวดวงอุตสาหกรรมน้ำตาล “ณิชา อัษฎาธร” ลีดเดอร์ Gen ใหม่จาก“กลุ่มไทยรุ่งเรือง”กับภารกิจพาเกษตรกรไทยก้าวสู่โลกยุคใหม่ที่ท้าทาย
วงการอุตสาหกรรมน้ำตาล ส่วนใหญ่มองว่าเป็นอุตสาหกรรมพื้นที่ของผู้ชาย โดยเฉพาะในระดับการบริหารและการตัดสินใจที่สำคัญ แต่ปัจจุบันเราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน กับการปรากฏตัวของผู้นำหญิงที่เข้ามามีบทบาทโดดเด่นมากขึ้น และนำพาเกษตรไทยเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในการในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
กลุ่มไทยรุ่งเรือง ขอพาไปรู้จักทายาทรุ่นที่ 4 ‘เนส-ณิชา อัษฎาธร’ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำตาลและอาหาร กลุ่มไทยรุ่งเรือง หนึ่งในผู้นำสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำตาล และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาวงการเกษตรกรรมไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมในการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกเกษตรกรรมปัจจุบัน และยังเป็นสตรีผู้บริหารเอกชนดีเด่นจากกระทรวงแรงงานในปีล่าสุดนี้อีกด้วย
• ผู้นำหญิงอุตสาหกรรมน้ำตาลยุคใหม่ ที่พร้อมท้าทายทุกการดิสรัปต์ด้วยการคิดเชิงระบบ
แม้ว่า วงการอุตสาหกรรมน้ำตาล ภาพจำเคยถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับผู้หญิงโดยเฉพาะในแง่ของการบริหารระดับสูง ผู้นำในองค์กรต่าง ๆ มักเป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ที่เป็นผู้หญิง มีสัดส่วนผู้หญิงประมาณ 24% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 20% ทำให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งสะท้อนว่าสังคมไทยให้พื้นที่กับผู้หญิงอย่างเท่าเทียม เริ่มด้วยบทบาทของผู้หญิงในด้านสตาร์ทอัพ และธุรกิจในอุตสาหกรรมน้ำตาลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ได้รับการยอมรับมากขึ้นว่าผู้หญิงมีความเป็นผู้นำ สามารถทำงานได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย
กลุ่มไทยรุ่งเรือง ได้ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ และการส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในองค์กรมาโดยตลอด โดยเล็งเห็นว่าผู้หญิงก็มีศักยภาพ ความทุ่มเท และความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ชาย และเป็นกำลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จเช่นกัน เมื่อมีผู้นำหญิงในวงการอุตสาหกรรมน้ำตาล และยังต้องให้ความสำคัญด้านการเกษตร(อ้อย) ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทันที แต่เป็นการส่งเสริมความยั่งยืนและการเติบโตในระยะยาว ผู้นำหญิงโดดเด่นการคิดอย่างละเอียดและประณีตในทุกกระบวนการเกษตร เช่น การดูแลพืชผลที่ต้องการความเอาใจใส่สูง
พร้อมทั้งความสามารถในการคิดเป็นระบบและตัดสินใจรอบคอบในทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผนการผลิตจนถึงการจัดการทรัพยากรเพื่อผลผลิตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้นำหญิงยังมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อม ทั้งด้านสภาพอากาศและเศรษฐกิจ รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจเกษตร การสร้างทีมและการบริหารความสัมพันธ์กับเกษตรกรหรือคู่ค้าก็เป็นจุดแข็งที่ช่วยให้การเกษตรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
‘ณิชา อัษฎาธร’ ผู้บริหารกลุ่มไทยรุ่งเรือง ถือเป็นผู้นำหญิงรุ่นใหม่ที่น่าจับตาคนหนึ่งในวงการอุตสาหกรรมน้ำตาลอีกคน เธอไม่ได้เพียงแค่ประสบความสำเร็จในด้านการบริหารธุรกิจ แต่ยังเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวงการเกษตร
โดยมีนโยบายและอุดมการณ์ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและความสำเร็จร่วมกับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและรักษาสมดุลของระบบนิเวศด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เธอเป็นหนึ่งในผู้นำที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในวงการเกษตร ทั้งในด้านเทคโนโลยี การตลาด และการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนและผลักดันโครงการต่าง ๆ อย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ
• น้ำตาลแบรนด์ ษฎา สะท้อนบทบาทผู้นำหญิงก้าวข้ามขีดจำกัดในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำตาล
‘ณิชา อัษฎาธร’ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำหญิงที่มีบทบาทสำคัญในวงการผู้ผลิตน้ำตาลของไทย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและการมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาลให้เติบโตอย่างยั่งยืน เธอไม่เพียงแค่ทลายกำแพงความเชื่อที่ว่าอาชีพในวงการผลิตน้ำตาลเป็นของผู้ชายเท่านั้น แต่ยังได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งในแง่ของนวัตกรรมทางการเกษตรและการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ก้าวแรกของณิชา อัษฎาธร เริ่มต้นจากการสานต่อธุรกิจน้ำตาลของครอบครัว ซึ่งดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นทวดต่อเนื่องจนมาถึงเธอที่เป็นทายาทรุ่นที่ 4 หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จึงได้กลับมาช่วยพัฒนาธุรกิจน้ำตาลของครอบครัว โดยสร้างแบรนด์น้ำตาลขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ “ษฎา” (SADA)
แม้กลุ่มไทยรุ่งเรือง จะมีน้ำตาลแบรนด์ ลิน และแบรนด์ TRR Group อยู่แล้ว แต่ณิชาเล็งเห็นว่าแบรนด์ทั้งสองยังไม่ได้เจาะกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้อย่างเต็มที่ การสร้างแบรนด์ “ษฎา” จึงเป็นการตอบโจทย์ตลาดที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม โดยเธอมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและสร้างความแตกต่างจากแบรนด์น้ำตาลอื่น ๆ ในเครือฯ โดยเฉพาะในแง่ของการทำตลาดที่เน้นผู้บริโภคทั่วไป และในแง่ของคุณภาพที่ต้องสูงและการสื่อสารแบรนด์ที่เข้าใจง่าย เข้าถึงทุกกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
“ที่มาของชื่อแบรนด์ ‘ษฎา’ นั้นมีความหมายลึกซึ้ง โดยมาจากนามสกุล “อัษฎาธร” Asadatorn เนื่องจากเดิมคุณพ่อ (ดร.อุกฤษฏ์ อัษฎาธร) ตั้งชื่อแบรนด์ลินจากชื่อคุณทวด (คุณสุรีย์ อัษฎาธร หรือ เถ้าแก่หลิ่น) จึงนำนามสกุลอัษฎาธรมาตั้งชื่อแบรนด์ษฎา และ “ษฎา” ในภาษาญี่ปุ่น (SADA) ยังแปลว่า “Pure One” หรือ “บริสุทธิ์” ซึ่งตรงกับคุณสมบัติของน้ำตาลที่ณิชาภาคภูมิใจในการผลิต ที่เน้นความสะอาดและคุณภาพสูง นอกจากนี้ในภาษาฮินดีและภาษาสันสกฤต “SADA” ยังแปลว่า “ตลอดไป” บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นน้ำตาลที่คงอยู่ตลอดไปในใจผู้บริโภค” ณิชา เล่าถึงที่มาของอีกก้าวสำคัญกลุ่มไทยรุ่งเรือง
ด้านเสียงตอบรับจากผู้บริโภคที่มีต่อน้ำตาลแบรนด์ “ษฎา” ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา น้ำตาลษฎาได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดไทย โดยเฉพาะในกลุ่มครัวเรือนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคยกย่องน้ำตาลษฎา ว่าเป็นสินค้าที่มอบความสะอาดและรสชาติที่เป็นธรรมชาติ ทำให้การปรุงอาหารและขนมหวานในบ้านเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัย ซึ่งเสียงตอบรับเชิงบวกเหล่านี้ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้น้ำตาลษฎายืนหยัดในตลาดน้ำตาลไทยได้อย่างมั่นคง
• มุมมองใหม่ ทำเกษตรกรรมในไทย ยังไงก็ต้องยั่งยืน !!
ณิชา อัษฎาธร มองว่า การเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมน้ำตาล ด้านการเกษตรไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีหรือวิธีการใหม่ ๆ มาใช้ แต่ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนแนวคิดและทัศนคติของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่เพียงแค่การผลิตอาหาร แต่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน อีกทั้งยังคิดนอกกรอบเพื่อหาวิธีให้เกษตรกรเปิดใจและเรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถปรับตัวและพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ซึ่งเธอได้เริ่มต้นจากปรับการสื่อสารผ่านวิทยุชุมชนของบริษัทฯ มาเป็นการไลฟ์สดให้มีการกระจายความรู้ ข่าวสารด้านการทำเกษตรกรรม และเพิ่มรายการสาระอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงจับมือกับ แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลง ชื่อว่า “อ้อยสด ยั่งยืน” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและผลักดันความคิดของเกษตรกรให้ได้ยิน เพราะการใช้เพลงก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างการรับรู้ มีและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในภาคการเกษตร
นอกจากนี้ การบริหารกลุ่มไทยรุ่งเรืองภายใต้ผู้นำ ณิชา ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ด้วยแนวคิดที่ว่า “สิ่งแวดล้อมที่ดีจะส่งผลให้ได้ผลผลิตที่ดี โดยพัฒนาจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเพาะปลูก เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพ และสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
เน้นกลยุทธ์ทันสมัยโดยมุ่งส่งเสริมชาวไร่อ้อยไทยสู่ยุคเกษตรกรรม 4.0 ผ่านการใช้เทคโนโลยีและแนวทางผ่านโครงการ “GETS Farming” ที่มาจาก ที่มาจากคำว่า 1.Green 2.Efficiency 3.Technology 4.Sustainability ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาธุรกิจและเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
รวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตทั้งหมด พร้อมทั้งสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยด้วยการฝึกอบรม การเข้าถึงแหล่งทุน และการเชื่อมโยงกับตลาด เธอเชื่อว่าเกษตรกรเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยและการให้ความรู้และเครื่องมือทันสมัยจะช่วยให้พวกเขาก้าวทันการเกษตรที่ยั่งยืนในโลกปัจจุบัน
การได้รับรางวัลสตรีทำงานดีเด่น ประจำปี 2568 สาขา “สตรีผู้บริหารเอกชนดีเด่น” จากกระทรวงแรงงาน เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของณิชาได้เป็นอย่างดี ในฐานะผู้นำหญิงในวงการอุตสาหกรรมน้ำตาล ยืนยันถึงความสามารถในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและการมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งพัฒนาสู่โลกยุคใหม่ในอนาคต
สุดท้าย ณิชา เชื่อว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลและเกษตรกรรมไทยจะต้องเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและสามารถสร้างมูลค่าให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน ด้วยความเชี่ยวชาญในการสร้างระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีเครื่องมือและการศึกษาเพื่อต่อยอดธุรกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง นำพาธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหาร ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกร ชุมชน และประเทศชาติ รวมถึงช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม