งาน SCSE 2025 เป็นงานนิทรรศการเมืองอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและสีเขียว” โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วย AI
ภาครัฐ-ภาคธุรกิจ เตรียมพร้อมเปิดงานงาน Smart City Summit & Expo 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วย AI สู่การเปลี่ยนแปลงดิจิทัลและสีเขียว สภาพัฒนาแห่งชาติ ร่วมกับรัฐบาลเมืองเกาสง และสมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป (TCA) พร้อมด้วยรัฐบาลเมืองไทเป
เตรียมเปิดงานประชุมสุดยอดและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ (Smart City Summit & Expo: SCSE) ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 21 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการไทเปหนานกัง ฮอลล์ 2
สำหรับงาน SCSE 2025 ถือเป็นงานนิทรรศการเมืองอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและสีเขียว” โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วย AI ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆ เช่น การบริหารจัดการขนส่งอัจฉริยะ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plants – VPPs) ความยั่งยืน Net-Zero และการร่วมสร้างระดับโลก
อเล็กซ์ ซี.ซี. เฉียน ประธาน Taiwan Smart City Solutions Alliance กล่าวว่า “ในยุคที่มีการแข่งขันทางอุตสาหกรรมสูง บทบาทของ AI โดยเฉพาะ Generative AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งอัจฉริยะ การดูแลสุขภาพ การสร้างและบริหารจัดการพลังงาน เป็นต้น”
งาน SCSE 2025 มีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมแสดงนวัตกรรมและโซลูชันเมืองอัจฉริยะ อาทิ เอเซอร์ กรุ๊ป, เอซุส, จุงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom), Far EasTone, Foxconn, MiTAC, SECOM, SYSCOM Group, Tatung, Taiwan Mobile, TECO และ Quanta โดยทั้งหมดขับเคลื่อนด้วย AI และเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของไต้หวัน
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานจาก 59 ประเทศและ 138 เมือง รวมกว่า 2,806 คน เพิ่มขึ้น 28% จากปีที่ผ่านมา โดย 5 อันดับประเทศที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด ได้แก่ ประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฮังการี นอกจากนี้ ยังมีนายกเทศมนตรีหรือผู้แทนเข้าร่วม 569 คน รวมถึงคณะผู้แทนจากยูเครนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่างๆ
ภายในงานจะมีการเปิดตัว “Smart City Global Co-Creation Pavilion” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างธุรกิจไต้หวันกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ จุงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) จะเชิญพันธมิตรด้านโทรคมนาคมจากต่างประเทศ เช่น NTT จากญี่ปุ่น Singtel จากสิงคโปร์ AIS จากไทย และ IOWN Global Forum มาร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันล่าสุด
นอกจากนี้ ผู้ชนะรางวัล System Integration Award อย่าง SYSCOM Group และ Wave-In จะนำเสนอโครงการที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในวงการเมืองอัจฉริยะ
ทางด้าน ซินเธีย เฉิน เลขาธิการ Taiwan Smart City Solutions Alliance (TSSA) กล่าวว่า “ไต้หวันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ปราศจากพลังงานนิวเคลียร์ โดยเพิ่มการพึ่งพาพลังงานทดแทนและเผชิญกับความท้าทายด้านเสถียรภาพของกริด ดังนั้น โรงไฟฟ้าเสมือน (VPPs) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยในงานจะมี VPP Pavilion ที่รวบรวมสมาชิกหลักจาก TSSA มาแสดงผลงาน”
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมและสื่อสารยังได้จัดแสดงโซน “Low-Carbon Mobility Pavilion” นำเสนอเทคโนโลยีการขนส่งอัจฉริยะแห่งอนาคต พร้อมด้วยพันธมิตรด้านพลังงานรถยนต์ไฟฟ้าไต้หวัน (Taiwan EV Power Supplement Alliance) ที่จะนำเสนอมาตรฐานและแอปพลิเคชันสถานีชาร์จอัจฉริยะ
นอกจากนี้ ยังมีโซน “Smart Startups Program” ที่รวบรวมสตาร์ทอัพกว่า 115 รายจาก 11 ผู้บ่มเพาะทั่วโลก มาจัดแสดงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและความยั่งยืนสีเขียว
ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์งาน คลิก Smart City Summit & Expo 2025